เซียนสมเด็จ โดย เจษ อาภา ( นิตยสาร พุทธคุณ ฉบับ ก ค 2560 )
หลักฐานหนักแน่น ที่มาชัดเจน..
ยืนยันคุณค่าพระสมเด็จวัดสะตือ..มีจริง..!! 
เมื่อสัปดาห์ก่อน มีพรรคพวกแจ้งข่าวมาว่า มีการโจมตีกันจนสนั่นโซเชียลว่า “ไม่มีกรุพระวัดสะตือ” โดยอาศัยหลักฐานจากคำบอกเล่าที่ไม่มีที่มาที่ไปว่า มีการจับโรงงานทำพระปลอมที่นั่น ที่นี่ แสดงว่าพระกรุนี้ไม่มีจริง มีแต่ของปลอม ก็ถือว่าเป็นอีกแง่มุมหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นแง่มุมที่หลักฐานค่อนข้างจะบางเบาก็ตาม
เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในเรื่องนี้ ผมจึงได้ลองสืบค้นดู แล้วก็ได้พบบทความหนึ่งของอาจารย์ รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ที่ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับกว่าหลายๆคนในวงการพระเครื่อง โดยท่านอาจารย์ได้เขียนบทความไว้ใน “รังสรรค์ ต่อสุวรรณ/Rangsan Torsuwan Fanpage”เอาไว้ดังนี้ครับ
“วันนี้ผมอยากจะเล่าถึงเรื่อง พระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี พระเถราจารย์ที่คนไทยทั้งหลายให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างสูงและตลอดกาล ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม ท่านได้เคยสร้างพระบูชาองค์ใหญ่ ซึ่งพวกเราเรียกกันว่า “หลวงพ่อโต” อยู่ทั้งหมด 3 องค์ ได้แก่พระบูชาหลวงพ่อโต ที่วัดเกศไชโย จังหวัดอ่างทอง ซึ่งถือเป็นพระปูนปั้นองค์ใหญ่มากที่สุดในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระหลวงพ่อโตองค์นี้ต้องใช้เวลาสร้างอยู่หลายปี จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่สามารถนิมนต์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตมาเทศน์ในพระบรมมหาราชวังได้เป็นระยะเวลานาน
ที่วัดเกศไชโย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านได้สร้าง พระสมเด็จวัดเกศไชโยขึ้น ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่พุทธศาสนิกชนมีความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง ในวงการพระเครื่องถือว่าเป็นพระสมเด็จยอดนิยมเป็นอันดับสามรองลงมาจาก พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม และพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านยังได้เดินธุดงก์ไปยังอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโยมแม่ ท่านจึงได้สร้างพระนอนปูนปั้นองค์ขนาดใหญ่รองมาจาก พระนอนปูนปั้นที่วัดขุนอินทร์ประมูล ในจังหวัดอ่างทอง โดยการสร้างพระนอนที่อยุธยานั้น เป็นการสร้างพระที่วัดสะตือ
เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2499 พระนอนที่วัดสะตือได้เกิดชำรุดเสียหายหนัก จึงต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่ จึงได้พบพระเครื่องปูนขาวรูปพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตารามเป็นจำนวนมาก เราเรียกกันว่า “พระสมเด็จวัดสะตือ”
สำหรับพระหลวงพ่อโตองค์ยืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ได้สร้างเป็นองค์สุดท้าย อยู่ที่วัดอินทร์ กรุงเทพมหานคร โดยที่ยังไม่ปรากฎว่ามีการขุดพบกรุที่บรรจุพระเครื่องพิมพ์ใดในพระหลวงพ่อโตองค์ยืนในกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด
สำหรับพระสมเด็จวัดสะตือนั้น ค้นพบบรรจุอยู่ในองค์พระนอน ซึ่งถูกแช่น้ำมาโดยตลอด พระสมเด็จวัดสะตือในสมัยนั้นลือกันว่า ท่านจอมพล ป. พิบูลสงครามและท่านนายพลอีกหลายท่านครอบครองอยู่ มีพระจำนวนน้อยที่ออกมาสู่มือชาวบ้าน จึงมีผู้ที่พบเห็นน้อยมากครับ
ฯพณฯ จอมพล ป. ได้เคยกราบนมัสการหลวงปู่นาค วัดระฆังโฆษิตาราม ได้ฟังคำชี้แจงจากหลวงปู่ว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เป็นผู้สร้างพระเครื่องพิมพ์สมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม ทั้งหมดพระที่สร้างในสมัยนั้น ส่วนที่เหลือบางส่วน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้เก็บไว้ในฝ้าเพดานพระอุโบสถ วัดระฆังโฆษิตาราม จึงเป็นเหตุให้พระสมเด็จวัดสะตือ เป็นพระที่มีพุทธศิลป์ มวลสารการสร้างพระ ตลอดจนการหดตัวและตำหนิศิลปะแม่พิมพ์เหมือนกับ พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตารามที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้สร้างขึ้นครับ
เมื่อพระนอนปูนปั้นองค์ใหญ่ที่วัดสะตือ จังหวัดอยุธยา สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม เพราะฉะนั้นพระผงสมเด็จกรุวัดสะตือซึ่งขุดได้จากภายในองค์พระนอนย่อมต้องเป็นพระเครื่องที่สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ อย่างไม่ต้องสงสัย บรรดาเซียนปากสุนัขไม่ต้องสงสัยในประเด็นว่าสร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯหรือไม่”
นั่นคือบทความของอาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณที่ยืนยันว่าพระสมเด็จวัดสะตือนั้นมีจริง
ซึ่งหากเปรียบเทียบชื่อชั้นแล้ว ชื่อของอาจารย์ท่านนี้ “เหนือชั้น” กว่าเยอะครับ จึงอยากฝากถึงคนที่สะสมพระวัดสะตือ..ขอให้มั่นใจนะครับว่าดีจริง อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาใดๆเลย.
ขอขอบคุณ
อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ / รังสรรค์ ต่อสุวรรณ/Rangsan Torsuwan Fanpage
| หน้าที่เข้าชม | 649,459 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 218,820 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 2 มิ.ย. 2560 |
| ร้านค้าอัพเดท | 26 ต.ค. 2568 |