หมวดหมู่ | พระสมเด็จ บางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย |
ราคาปกติ | |
ลดเหลือ | 3,500.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 25 ต.ค. 2565 |
อัพเดทล่าสุด | 1 พ.ย. 2567 |
จำนวน | ชิ้น |
พระสมเด็จ บางขุนพรหม
วัดบางขุนพรหม ในทำเนียบวัดโบราณ กล่าวว่ามีการตั้งมาตั้งแต่ ครั้งกรุงธนบุรี ในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดวราตาราม ( แปลว่าวัด ที่เจริญยิ่งมิรู้เสื่อม ) ปัจจุบันคือ วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ
ในปลายสมัยรัชกาลที่ 4 เสมียนตราด้วง ผู้เป็นต้นตระกูล "ธนโกเศศ" พร้อมกับผู้มีศรัทธา ได้ร่วมใจกันบริจาคจตุปัจจัยทำนุบำรุงวัดบางขุนพรหมขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และยังได้จัดสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ประดิษฐานไว้ที่วัดบางขุนพรหมอีกด้วย เสมียนตราด้วงได้ขออนุญาตและขอเมตตาเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) จัดสร้างพระพิมพ์หรือที่ต่อมาเรียก "พระสมเด็จ" จำนวน 84,000 องค์ บรรจุไว้ในพระเจดีย์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและสืบพระศาสนาตามคดีโบราณอีกด้วย
ต่อมาได้มีการลักลอบเปิดกรุถึงสามครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2425 ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2436 ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2459 นอกจากนี้ยังมีการตกเบ็ดพระโดยวิธีปั้นดินเหนียวผูกเชือกหย่อนลงไปในกรุให้พระติดดินเหนียวขึ้นมา
พระที่ไม่มีคราบกรุมาก นิยมเรียกว่า.. "พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า" ส่วนพระที่มีคราบมากกรุเรียก "พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุใหม่"
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2500 ทางวัดได้พบว่ามีผู้เจาะกรุเข้าไปในเจดีย์ พระครูอมรคณาจารย์(เส็ง)เจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงนำเรื่องการเปิดกรุเข้าหารือพระเถระผู้ใหญ่ ต่อมาได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ และได้เชิญพลเอกประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการเปิดกรุ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2500
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ที่นิยมในวงการพระเครื่อง มี 9 พิมพ์ คือ
1. พิมพ์ใหญ่ หรือพิมพ์พระประธาน 2. พิมพ์ทรงเจดีย์ 3. พิมพ์ฐานแซม 4. พิมพ์เกศบัวตูม 5. พิมพ์เส้นด้าย 6. พิมพ์สังฆาฏิ 7. พิมพ์ปรกโพธิ์
8. พิมพ์อกครุฑ 9. พิมพ์ฐานคู่ และยังมีพิมพ์อื่น ๆ อีก แต่มีจำนวนไม่มาก เช่น พิมพ์ปางไสยาสน์
***** การเปิดกรุ พระสมเด็จ บางขุนพรหม
.............วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ได้ติดต่อให้กรมศิลปากรเข้ามาดูแล และเปิดกรุอย่างเป็นทางการโดยเชิญ "จอมพล ประภาส จารุเสถียร" เป็นประธานในพิธีเปิดกรุเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 พระที่นำออกมาครั้งนี้ นักนิยมพระสมเด็จเรียกกันว่า “ พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุใหม่ ” เมื่อนำมาคัดแยกคงเหลือพระที่มีสภาพดีและสวยงามเพียง 2,950 องค์เท่านั้น มีการประทับตราวัดทุกองค์กันการปลอมแปลงและทางวัดนำพระดังกล่าวให้ประชาชนที่มารอทำบุญเช่าบูชาพระ จนกระทั่งหมดลงในเวลาไม่นานนัก และพระส่วนมากมอบให้ จอมพล ประภาส จารุเสถียร และ ข้าราชการชั้นสูงที่มาทำบุญให้ทางวัดเป็นจำนวนมาก
จากการเปิดกรุที่ตามตำนานกล่าวว่า....มีการสร้างพระสมเด็จบรรจุไว้แต่แรก 84,000 องค์ ตามคติการสร้างพระเพื่อสืบพระศาสนา ( จำนวนเท่ากับพระธรรมขันธ์ ) พบ “ พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุใหม่” ครั้งนี้หลากหลายพิมพ์ ลักษณะของวรรณะคราบกรุมาก ผิว เนื้อพระมีความหดตัว พิมพ์พระส่วนมากไม่ลึก เนื่องด้วยการสร้างกดมวลสารที่ เร่งรีบให้ครบจำนวนและเวลาที่จำกัด หลังจากเปิดกรุอย่างเป็นทางการได้ทำการนับโดยจะประทับตราวัด ทุกๆ 100 องค์ เพื่อสะดวกแก่การนับ ( จำนวน นับได้หลายหมื่นองค์ จึงปรากฏว่าพระชุดนี้มีพระที่มีตราประทับบ้างไม่มีบ้าง ) โดยพระสมเด็จบางขุนพรหมส่วนใหญ่อยู่กับ “จอมพล ประภาส จารุเสถียร” ซึ่งท่านบริจาคเงินจำนวนมากให้แก่วัด ( ประมาณ หนึ่งล้านห้าแสนบาท เมื่อปี พ.ศ. 2500 ) ท่านจึงได้รับพระสมเด็จเป็นจำนวนมากหลายหมื่นองค์ และท่านได้นำพระชุดนี้ไปเก็บไว้ที่บ้านสามฤดู จังหวัดลำปาง โดยมีมารดาคือ เจ้าบัวตอง (ณ ลำปาง) จารุเสถียร คอยดูแล
ต่อมาได้มีการนำพระชุดนี้ถวายให้กับวัดในลำปางหลายวัด และเมื่อมีงานบุญ กฐิน ผ้าป่าและวาระพิเศษต่างๆ ได้นำพระชุดนี้ออกมาแจกจ่ายแก่ประชาชน คนสนิท ญาติมิตร ผู้มาทำบุญ เป็นจำนวนมากในจังหวัดลำปางและใกล้เคียง จึงเป็นที่มาของ “พระสมเด็จบางขุนพรหม ลำปาง” ซึ่งคนในพื้นที่รู้จักและครอบครองกันมานาน
หน้าที่เข้าชม | 641,740 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 211,101 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 มิ.ย. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |